เป็นที่รู้กันว่า
เรื่องความสวยผู้หญิงทุกคนไม่มีใครยอมใครเลย ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร
เครื่องสำอางจึงยังขายดิบขายดี และเติบโตมากขึ้นทุกปี ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม
จึงเป็นธุรกิจที่ครองอันดับ 1 ติดต่อกันทุกปี จนถึงวันนี้ และหากจะพูดถึงผู้นำในตลาดอาเซียนแล้ว พี่ใหญ่ด้านเครื่องสำอางก็คือ
ประเทศไทยเราเอง เพราะได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากทุกประเทศในกลุ่ม
เออีซี จะมีคู่แข่งบ้างในระดับอาเซียนก็คือ
ประเทศอินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ซึ่งหลังจากการเปิดตลาดประชาคมอาเซียนแล้ว อาจจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้น
ในวันนี้จึงเอาเคล็ดลับดีๆมาฝาก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการการเตรียมเป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง
ซึ่งหัวใจหลักใหญ่ของผู้ที่จะทำคือ ต้องเป็นผู้มีใจรักจริงๆ ไม่ใช่แค่อยากทำตามกระแส
แนวทางขั้นตอนการเตรียมตัวและศึกษาข้อมูลตลาดก่อนลงมือทำ
1.
ศึกษาคู่แข่งและตลาด ว่ามีอะไรขายกัน ราคาเท่าไร
สินค้าดีหรือไม่ดีอย่างไร มีอะไรที่เขาไม่มี หรือไม่ดีพอ เพื่อเราจะได้ทำเครื่องสำอางของเรามาแข่งขัน
ตอบสนองตลาดได้
2.
กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น กลุ่มลูกค้าอายุ
15-25 ปี หรือ กลุ่มลูกค้าวัยอื่นๆ เพื่อที่จะเลือกเครื่องสำอางให้เหมาะสมกับตลาดที่ต้องการได้
และสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ต่างๆ การออกแบบฉลาก และกล่องเครื่องสำอางให้เหมาะสมกับกลุ่มตลาดเป้าหมาย
3.
สร้างคอนเซ็ปต์สินค้า หรือการตลาดให้กับแบรนด์ เพื่อให้เครื่องสำอางของเราดูแตกต่างจากคู่แข่ง
ซึ่งข้อนี้จะได้มาจากการที่ทำข้อ 1. แล้ว
4.
ปรึกษาโรงงานผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องสำอาง
ซึ่งหากท่านไม่มีความรู้สินค้ามากนัก ผู้เชี่ยวชาญการผลิตเครื่องสำอางจะสามารถช่วยแนะนำท่านได้
5. วางแผนการตลาดรอไว้เลย เมื่อผลิตเครื่องสำอางเสร็จจะได้ทำตามแผนการตลาดโดยทันที
ซึ่งการตลาดมีได้หลากหลายช่องทาง แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน เช่น วางขายหน้าร้านของตนเอง
ขายผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งไปขายกับตัวแทนขายต่างๆ
ขายเข้าห้างหรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ รวมถึงส่งออกต่างประเทศ ฯลฯ
สำหรับงบประมาณการลงทุนในการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตนเองนั้น
จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เลือก หากต้องการลงทุนในงบประมาณที่ไม่สูงมาก
แนะนำให้ใช้สูตรมาตรฐานที่ทางโรงงานมีอยู่แล้ว ซึ่งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่
ข้อดีคือ ประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุน และสามารถลงทุนโดยไม่ต้องผลิตจำนวนมาก หากขายได้ดี
สามารถสั่งผลิตซ้ำอีกได้ในปริมาณมาก ซึ่งก็จะได้ราคาต้นทุนที่ต่ำลง สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางเพื่อทำตลาดทั้งในและประเทศ
ควรศึกษาข้อมูลให้ดี ตั้งแต่การเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ไม่มีสารเคมีต้องห้ามตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
(อย.) กำหนดไว้ นอกจากนั้นควรเลือกผลิตจากโรงงานที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน
GMP เพราะจะเป็นสินค้าที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และสามารถส่งออกเพื่อจำหน่ายได้ทันที
ปัจจุบันมีบริษัทที่ให้บริการในแบบครบวงจร ( One Stop
Service ) หรือ ตั้งแต่การวางแผนผลิตภัณฑ์
การวิจัยและพัฒนาสูตรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยงานดีไซน์
ตลอดจนให้คำปรึกษาด้านการตลาดเพื่อการสร้างแบรนด์ ที่ได้มาตรฐาน GMP และ ASEAN GMP จากกระทรวงสาธารณสุข และผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
(อย.)
ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น